RSS

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ สร้างบ้านตามทิศทางลม ทิศทางแดด















เรื่องของ ทิศทางแดด ลม เป็นอีกเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้ในการวางแปลนบ้านที่ จะต้องเอื้อต่อประโยชน์ใช้สอยของคนในบ้าน  เพราะถ้าวางผังบ้านไม่ถูกทิศ ไม่ถูกทาง บ้านของเราอาจจะร้อนเป็นเตาอบในหน้าร้อน หรือกลายเป็นห้องมืดต้องเปิดไฟแสงสว่างในตอนกลางวัน หรือห้องมีกลิ่นอับเพราะแสงแดดเข้ามาน้อย
การรู้จักกับทิศทางแดด ทางลมในแต่ละฤดูกาลในบ้านเรา เป็นการเตรียมวางแผน วางผังบ้านให้เหมาะกับทิศทางแดด ทิศทางลมเบื้องต้นด้วยตัวเอง ส่วนใครที่มีบ้านอยู่แล้ว ก็อาจจะนำไปความรู้ที่ได้นี้ไปดัดแปลง แก้ไขเรื่องทิศทางแดด เรื่องทิศทางลมในบ้านต่อไป
ฤดูกาล ประเทศของเรา แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ซึ่งในแต่ละฤดู แนวแกนโคจรของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกัน ส่งผลต่อแสงแดดที่ต่างกันออกไปในช่วงเวลาต่างๆ




แสงแดดในช่วงฤดูร้อน
โดยในช่วงฤดูร้อนซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุด เป็นช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูงในรอบปี โดยลักษณะการโคจรของดวงอาทิตย์มีการโคจรแนวแกนทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก บ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือ และทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย




แสงแดดในช่วงฤดูฝน
ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศ เหนือมากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก ผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย



แสงแดดในช่วงฤดูหนาว
ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศใต้มากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออก และทางทิศใต้จะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้นหลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น ในขณะที่ผนังทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ จนถึงช่วงบ่ายอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตกผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้ รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ตลอดเวลา และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย




รู้กันอย่างนี้แล้ว ก็ลองเช็คกับบ้านของตัวเองดูว่า แปลนบ้านเราเป็นอย่างไร หันหน้าไปทางทิศไหน แดดเข้าทางไหน ผังบ้านเราขวางทางลมมั้ย ควรใช้วัสดุก่อสร้างอย่างไรที่จะมาช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด มีจุดไหนที่ต้องปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขเพื่อลดปัญหาบ้านร้อนหรือไม่ หรือออกแบบบ้านอย่างไรให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก มีทั้งลมเข้าและลมออก ถ้าสามารถวางผังให้ตรงกับทิศทางต่างๆ ที่เราเอามาฝากนี้ ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ บ้านอยู่เย็นเป็นสุขได้ตลอดทั้งปี

credit:bhb.co.th

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ตอน เปลี่ยนบ้านเป็น Eco Home

รับถมที่ดิน เชียงใหม่  ตอนวิธีเปลี่ยนบ้านเป็น Eco Home อย่างง่าย ๆ





















ประหยัดพลังงานง่าย ๆ ในบ้าน (home & decor)

          ย่างเข้าเดือนหกฝนก็ตกพรำ ๆ... เข้าสู่ช่วงที่ฤดูฝนเริ่มมาเยือน และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีฝนพรำมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม แต่อากาศบ้านเราก็ยังร้อนซะเหลือเกิน ไปไหนก็ไม่พ้นได้ยินเสียงบ่นกันแทบทุกหย่อมหญ้า จนหลาย ๆ คนคงนึกอยากหาบ้านประหยัดพลังงานสักหลังไว้หลบภัยในสภาวะโลกร้อนเช่นนี้

          แต่หากบ้านเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าก็คงจะดี อยากได้บ้านใหม่ก็หาซื้อใหม่เอา แต่เพราะบ้านเราไม่ใช่ราคาหลังละพันสองพันบาท จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่อยู่ ๆ จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนบ้านหลังเดิมแล้วย้ายไปสร้างบ้าน Eco Home หลังใหม่ ดังนั้นมาหาวิธีปรับเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็น Eco Home กันแบบง่าย ๆ ดีกว่า





















Eco Home คืออะไร

          เราขอนิยาม Eco Home ง่าย ๆ ว่าคือบ้านประหยัดพลังงาน เป็นบ้านที่ใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีคุณค่า ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน ลดความร้อนภายในบ้าน ก่อให้เกิดมลพิษและมลภาวะน้อย พูดให้เข้าใจง่ายก็คือบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

          ในปัจจุบันมีแบบบ้านประหยัดพลังงานออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่คิดจะสร้างบ้านมากขึ้น ซึ่งบ้านประหยัดพลังงานสำเร็จรูปเหล่านี้ ล้วนแต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหาะสมกับสภาพอากาศในบ้าน เราทั้งยังสามารถควบคุมในเรื่องของการลดการใช้พลังงาน วัสดุที่ช่วยลดความร้อน และงบประมาณการก่อสร้างได้อีกด้วย แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ใช่ว่าทุกคนจะสามารถมีบ้านใหม่กันได้ง่าย ๆ ดังนั้นวิธีที่จะทำได้ ก็คือลองกลับมาทำให้บ้านหลังเดิมของเรากลายเป็นบ้านประหยัดพลังงานหลังใหม่ขึ้นมากันดีกว่า

 1. การแบ่งพื้นที่ภายในบ้าน

          หลายคนอยู่ในบ้านหลังเดิมหรือห้องคอนโดมิเนียมเดิม ๆ มานาน อาจไม่ทันสังเกตข้าวของที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งก็มากจนมาปิดกั้นพื้นที่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้สูงหรือชั้นวางของที่อาจทำให้แสงและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ลองมาจัดพื้นที่ในบ้านใหม่กันดูสักที ปรับให้มีพื้นที่โล่งโปร่งสบาย แบ่งพื้นที่ใช้งานเท่าที่จำเป็นอย่างเป็นสัดเป็นส่วน เพื่อให้ลมและแสงได้ผ่านเข้ามาภายในบ้านมากขึ้น

 2. เพิ่มช่องเปิดของบ้าน

          หากบ้านเดิมของเรามีช่องเปิดน้อยเกินไปอาจทำให้ลมผ่านเข้า-ออกได้น้อย ลองเลือกมุมที่สามารถเปิดเป็นทางลมผ่าน แล้วเพิ่มช่องประตูหรือหน้าต่าง เพื่อให้อากาศระบาย จะช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดี และยังทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้นอีกด้วย

 3. ติดฉนวนกันความร้อน

          ฉนวนกันความร้อนช่วยลดความร้อนของอากาศที่จะเข้ามาสู่ตัวบ้านได้มาก ซึ่งปัจจุบันมีฉนวนให้เลือกติดตั้งเพิ่มได้ทั้งในผนังบนฝ้าเพดานและหลังคาบ้าน



























4. วัสดุลดร้อน

          การเลือกใช้วัสดุมาตกแต่งเพิ่มเติม เช่น ไม้ หรือพื้นไม้ จะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้ เพราะไม่มีคุณสมบัติสะสมความร้อนน้อยและคายความร้อนได้เร็ว นอกจากนี้พวกกระเบื้องหรือหินปูพื้นก็สามารถนำมาใช้เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิในบ้านได้ดีเช่นกัน

 5. น้ำฝนอย่าปล่อยผ่าน

          การเก็บน้ำฝนไว้ใช้ก็เป็นทางหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งปัจจุบันมีรางน้ำฝนประเภทที่ผลิตออกมาเพื่อป้องกันฝุ่น ใบไม้ หรือสิ่งแปลกปลอมที่ผสมมากับน้ำฝนบนหลังคา และยังสามารถรองน้ำฝนก่อนที่จะนำมาใช้ได้อีกด้วย เพื่อให้เราได้นำน้ำจากธรรมชาติมาใช้โดยไม่เสียเปล่า

 6. สวนบนระเบียง

          แน่นอนว่า ถึงเราจะพยายามเลือกใช้วัสดุหรือพยายามป้องกันความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านอย่างไร ก็ไม่สามารถสู้การลดความร้อนโดยวิธีธรรมชาติโดยตรงได้ หลายคนที่บ้านมีระเบียงหรือระเบียงที่คอนโดฯ หรือพื้นที่กันสาดที่ออกมาจากตัวบ้าน อย่าปล่อยให้เป็นเพียงพื้นที่โล่งไป โดยเปล่าประโยชน์ ลองมาจัดเป็นสวนเล็ก ๆ นอกจากจะช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ยังได้พื้นที่นั่งพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 7. ใช้น้ำธรรมชาติ

          หากบ้านใครมีพื้นที่หรือมีสระน้ำธรรมชาติที่สามารถนำน้ำมาใช้ได้ การทำแท็งก์เก็บน้ำฝนหรือเก็บน้ำจากสระไว้บนที่สูง จะช่วยลดพลังงานได้มากกว่าการปั๊มน้ำมาใช้ตามส่วนต่าง ๆ ทีละจุด เราะจะปั๊มน้ำสูบขึ้นไปแค่จุดเดียว จากนั้นเมื่อจะเปิดใช้ ก็ให้แรงดันน้ำจากที่สูงเป็นตัวปล่อยลงมา

        สร้างสวนเล็ก ๆ ภายในบริเวณบ้าน ไม่ใช่แค่ช่วยลดความร้อน แต่ยังเพิ่มพื้นที่ให้คนในบ้านได้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข

        การช่วยกันอนุรักษ์พลังงาน ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว นอกจากช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังทำให้สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นส่งผลไปยังรุ่นต่อรุ่นอีกด้วย

          จะเห็นได้ว่าวิธีทำให้บ้านของเราเป็นบ้านประหยัดพลังงานมีด้วยกันหลายด้านและหลายวิธี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางที่ดีที่สุด นอกจากเราจะคอยมองหาทางเพื่อหนีไปจากสภาวะโลกร้อนนี้เพียงอย่างเดียว ควรหันกลับมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสุขและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของลูกหลานและตัวเราเอง



















Easy Tips to Be Eco Home

        ติดตั้งกันสาดในด้านที่มีแสงเข้าบ้านมากเกินไป เพื่อช่วยลดความร้อนแรงของแสงได้อีกทาง

        การเลือกใช้กระจกสีจะช่วยลดพลังงาน ได้มากกว่ากระจกใส เพราะช่วยในการกักเก็บความร้อนได้ถึง 50 องศาเซลเซียส

        การเจาะช่องหน้าต่างให้บานใหญ่ขึ้นและสูงจากพื้น 45 ซม. จะช่วยให้ลมเข้าสู่ภายในบ้านได้สะดวกขึ้น

        อาคารพาณิชย์มักโดนแดดเผาทั้งข้างหน้า ข้างหลัง อาจป้องกันโดยการทำแผงกันแดดที่สามารถระบายอากาศได้ดี

        การทาสีภายนอกอาคารด้วยโทนสีขาว จะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ดี ทำให้ความร้อนภายในบ้านลดลง

credit : kapook.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ราคาทองฟื้น

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ราคาทองฟื้น


ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำลดลงเล็กน้อย หลังสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนเช้าวันนี้พบว่าราคาทองคำทะยานตัวกลับขึ้นอีกครั้งที่ระดับราคา 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนในประเทศค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ทองในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติ ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักต่อเนื่องติดต่อกันหลายสัปดาห์ ขณะที่ประเด็นความวิตกกังวลของนักลงทุน ต่อการปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุด ที่สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่อาจกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป ขณะเดียวกัน นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น เมื่อนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตรการ QE เพื่อปกป้องเศรษฐกิจยูโรโซนให้รอดพ้นจากภาวะเงินฝืด และพร้อมที่จะใช้มาตรการแทรกแซงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังย่ำแย่ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้นท้่วโลกให้ร่วงลงอย่างหนัก และเป็นปัจจัยบวกกลับมาที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่วนรายงานจาก กองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 2.65 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 759.44 ตัน ด้านราคาทองคำในประเทศ สัปดาห์ที่ผ่านมาทองปรับขึ้นรวม 350 บาทและต่อเนื่องมาเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ปรับขึ้นอีก 100 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งขายออก ใกล้ระดับ 19,000 บาทแล้ว โดยอยู่ที่ราคา 18,950 บาท ส่งค่าเงินบาทยังพบว่าแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และได้ส่งผลเป็นอุปสรรคต่อการปรับขึ้นของราคาทองในประเทศ โดยเช้านี้เงินบาทอยู่ที่่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ภาพเทคนิคของราคาทองคำยังมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยในการซื้อขายวันศุกร์ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบ ก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัว การเคลื่อนไหวในระยะสั้นคาดว่าราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวรับสำหรับกลับเข้าเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,215-1,218 และ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ และมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,235-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์.

credit:ทองคำราคา.com

สำหรับลูกค้าท่านไหนต้องการซื้อทอง ณ ขนะนี้ก็ควรซื้อไว้นะครับอีกไม่นานก็อาจขึ้นไปเรื่อย ๆ เลยครับ ส่วนเรื่องของเราจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ
รายละเอียดการับเหมาของเรานะครับมีดังนี้
1 . ดินลูกรัง 1 ลำ หรือ 5 คิว เริ่มที่ ราคา 500 บาท
2. ดินดำ 1 ลำ หรือ 5 คิว  เริ่มต้นที่ 700 บาท
หมายเหตุ การถมดินรวมค่าไถด้วย ส่วนถ้าจะบดอัดด้วยรถบด คิดต่างหากรถบดวันละ 3,500-4,000คิว เริ่มที่ ราคา 500 บาท

รถแทรกเตอร์ 4,000 บาทต่อวัน
รถแมคโคร 4,000 บาทต่อวัน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับปลวก

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับปลวก



ปลวก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ได้ทำลายทรัพย์สินเสียหายในแต่ละปี ไม่มีอาคารที่จะไม่มีระบบป้องกันตนเองต่อการรุกรานของมันได้ปลวกส่วนไหญ่จะหลบซ้อนอยู่ภายในโครงสร้างที่ไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจพบได้ กว่าจะรู้ก็เสียหายแล้ว

ปลวก เป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีชีวิตอยู่รวมกันเป็นหมู่เหล่า เรียกว่า "แมลงสังคม"
ปลวกเป็นศัตรูสำคัญต่อ เศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำความเสียหายอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง พืชสวนและพืชไร่ต่างๆ ในประเทศไทยมีมากกว่า 90 ชนิด และทั่วโลกประมาณ 2000 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีความเป็นอยู่และความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน กล่าวว่าปลวกเป็น "แมลงสังคม" ซึ่งจะประกอบด้วยวรรณะ 3 วรรณะดังนี้ปลวก (termite) "แมลงสังคม"


วรรณะ ปลวกสืบพันธุ์ : คือ ปลวก ตัวเมีย ในรังปลวกจะพบปลวกชนิดนี้ ทำหน้าที่ผสมพันธุ์และขยายพันธ์ เราเรียกปลวกคู่นี้ว่า ราชาปลวก(king) และราชินีปลวก(queen) นอกจากนี้ยังมีปลวกสืบพันธุ์สำรอง ซึ่งช่วยสืบพันธุ์กรณีราชาปลวกหรือราชินีตาย "แมลงเม่า" เป็นปลวกในระยะที่มีปีก เมื่อโตเต็มที่จะบินออกนอกรังเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์ แล้วสลัดปีกเลือกหาสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังและเกิดเป็นอาณาจักรใหม่ต่อไป


ปลวกงาน

วรรณะ ปลวกงาน : เป็นปลวกตัวเล็กไม่มีปีก ไม่มีเพศ ไม่มีตา มีหน้าที่ก่อสร้างรัง หาอาหารมาเลี้ยงปลวก วรรณะอื่นๆในรังและจะทำงานทุกอย่างในรัง มีจำนวนมากที่สุดในรัง


ปลวกทหาร

วรรณะ ปลวกทหาร : เป็นปลวกตัวเล็ก แต่มีหัวโต โดยที่ขากรรไกรจะขยายใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ทำหน้าที่เป็นอาวุธต่อสู้ศัตรู ปลวกชนิดนี้ไม่มีปีก ไม่มีเพศ ไม่มีตา ไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ มีประมาณ 10% ของรัง
การขยายอาณาจักรปลวก
ถึง 25-50 ปีเมื่อถึงฤดูกาลที่เหมาะสม "แมลงเม่า" จะบินออกจากรังในเขตร้อน และจะบินออกจากรังช่วงหลังฝน เมื่อแต่ละคู่ผสมพันธุกันแล้วจะสลัดปีก แล้วเลือกหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังใหม่ ซึ่งแมลงเม่าคู่นี้ คือ ราชาปลวกและราชินีปลวก ของรังนั้นๆ เอง ซึ่งแต่ละรังจะมี ราชาปลวกและราชินีปลวก เพียง 1 คู่ เท่านั้น เมื่อหาสถานที่ได้แล้ว ภายใน 2 -3 วัน จะเริ่มวางไข่ครั้งแรกๆ จะออกไข่ไม่กี่ฟอง แต่จะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ตลอดอายุของมัน ไข่จะฟักตัวอ่อนภายใน 30 - 50 วัน ซึ่งไขที่ฟักออกมาจะเป็น ปลวกงาน เป็นจำนวนมากกว่าปลวกชนิดอื่นๆ ทั้งหมด ปลวกที่มีอายุยืนยาว อาจมีไข่มากกว่า 30,000 ฟองต่อวัน ราชาปลวกและราชินีปลวก จะมีอายุยืนยาว

วงจรชีวิตของปลวก
เรามารู้ถึงวงจรชีวิตของปลวกกันเพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการดำรงชีพของปลวกและเพื่อเป็นการป้องกันกำจัดได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



แมลงเม่าเป็นปลวกทั้งเพศผู้และเพศเมียที่ไม่เป็นหมัน เมื่อบินออกจากรังจะจับคู่กันแล้วจะสลัดปีกทิ้ง จากนั้นจะพากันไปหาสถานที่ที่เหมาะสมในการที่จะเป็นรังใหม่ของมันต่อไปนั่นคือที่ที่มีความชื้นสูงและมีอาหารคือไม้อยู่อย่างพอเพียง ขั้นตอนการผสมพันธุ์เริ่มจากเพศเมีย ซึ่งเป็นราชินีปลวกจะชูส่วนท้องและปล่อยกลิ่นฟีโรโมนเพศ ทำให้ปลวกราชาเคลื่อนที่เข้าไปหาและเริ่มการผสมพันธุ์ เมื่อสร้างรังเสร็จตัวเมียจะเริ่มวางไข่ในระยะต่อมาภายในระยะเวลา 1 เดือน การวางไข่ครั้งแรกจะมีจำนวนน้อยประมาณ 10 ฟองหรือมากกว่า ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนออกมาภายในเวลาหลายสัปดาห์ โดยปลวกรุ่นแรกจะเป็นปลวกงานและปลวกทหาร ในระยะแรกตัวอ่อนจะได้รับอาหารจากปลวกราชินีโดยการกินมูลและอาหาร ซึ่งทำให้ปลวกได้รับโปรโตซัวและแบคทีเรีย ต่อมาส่วนท้องของปลวกราชินีจะขยายใหญ่ขึ้นจะเริ่มวางไข่อีกและจะเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนไม่ได้ ในครั้งนี้จะเป็นการผลิตปลวกงานและปลวกทหารให้เพิ่มขึ้น ในระยะ 3-4 ปีต่อมาราชินีจึงวางไข่เพื่อผลิตวรรณะสืบพันธุ์ชุดแรก (primary reproductive) สำหรับตัวราชาปลวกจะมีรูปร่างขยายขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก จะคอยอยู่ใกล้ๆ กับตัวนางพญาปลวกเพื่อทำการผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียว




credit : termitebug.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ถมดินทุ้งอ้อ สันป่าตอง

รับถมที่ดิน เชียงใหม่ ถมดินทุ้งอ้อ สันป่าตอง

เป็นการเคลียร์พื้นที่ก่อนถมดิน เพื่อปลูกสร้างบ้านที่อยู่อาศัย การเครียร์พื้นที่มีต้นไม้ประมาณ 20 ต้น ซึ่งมีความยากลำบากพอสมควร เนื่องจากต้องตัด ต้องขุดต่อ แล้วทำการถมที่ดิน ระยะเวลาในการดำเนินการ 7 วัน ขอขอบคุณอ้ายมิน เป็นอย่างสูงครับ





  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS